ศูนย์พิทักษ์สิทธิคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมจังหวัดระยอง 3/32 หมู่ 2 ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง 21000 โทร/โทรสาร.038-617368 มือถือ.086-3678981
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สัมชชาคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมจังหวัดระยอง
ประเมินภายนอกโดยนักวิชาการอิสระ
ทีมประเมินภายใน(มูลนิธิ) ลงพื้นที่ระยอง
สปสช.กับงานคุ้มครองสิทธิ
วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
16 เวทีให้ความรู้ความเข้าใจอำเภอสุดท้าย
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552
การดำเนินงานในเดือนพฤศจิกายน 52 ของศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคฯจังหวัดระยอง
วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552
สปสช.เขต6 ระยอง ประกาศรับฟังความเห็นระบบสุขภาพ
รายงานจากศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดระยอง ฮิ
วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552
3G นโยบายที่ผู้บริโภคต้องรู้ ข้อมูลลับ...
องค์กรผู้บริโภค เรียกร้องหยุดอ้างผลประโยชน์ผู้บริโภค
เพราะกรอบการประมูลผู้บริโภคยังไม่ได้ผลประโยชน์จริง
ไม่มีหลักประกันเรื่องการเข้าถึงของกลุ่มคนพิเศษ
เป็นเพียงการลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ
แนวทางประมูลอาจจะเกิดปัญหาการฮั้วประมูลได้
พร้อมเรียกร้องให้รับฟังความคิดเห็นให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจ
และต้องยึดผลประโยชน์ของผู้บริโภคและรัฐเป็นสำคัญ
สืบเนื่องจากทั้งนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ต่างให้ความเห็น ว่า การประมูลคลื่นโทรคมนาคม รุ่น 3G จะไม่ให้ความสำคัญเรื่องราคาในการประมูล เพราะหากประมูลราคาแพงสุดท้ายภาระจะตกอยู่กับผู้บริโภค
การกล่าวอ้างดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ถ้าจะให้ประโยชน์เกิดกับผู้บริโภค ในการประมูลคลื่นฯ 3G รัฐจะต้องได้รับประโยชน์น้อย แต่ข้อเท็จจริงก็คือระบบการให้บริการในกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทยปัจจุบัน มีผู้ให้บริการที่ได้รับสัมปทานจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็นองค์การโทรศัพท์ (TOT) และการสื่อสารแห่งประเทศไทย (CAT) ซึ่งทำให้บริษัทเอกชนที่ให้บริการโทรคมนาคมมีการจ่ายส่วนแบ่งค่าตอบแทนให้รัฐ ผ่าน TOT และ CAT รวมแล้วมากถึงปีละประมาณ 50,000 ล้านบาท หรือถ้าคิดคำนวณตลอดอายุสัมปทาน จะเป็นเม็ดเงินอย่างน้อยที่สุด 1.8 แสนล้านบาท (ตัวเลขจากการคำนวณของ ดร.
ข้อที่ต้องพิจารณาที่แท้จริงในการเปิดประมูลกลับอยู่ที่ว่า เงื่อนไขที่กำหนดสำหรับการประมูลในครั้งนี้ก่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรมเพียงใด ข้อเท็จจริงในขณะนี้ก็คือ ทาง กทช. กำหนดที่จะดำเนินการเปิดประมูลใบอนุญาตคลื่นฯ 3G จำนวน 4 ใบ ในขณะที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการประมูลเพียง 4 บริษัท ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้จึงไม่เอื้อให้มีการแข่งขันในการประมูลอย่างแท้จริง ตรงกันข้ามกลับจะเปิดช่องให้เกิดการฮั้วประมูลขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้รัฐเสียประโยชน์ เนื่องจากไม่ได้รับผลตอบแทนในระดับที่เหมาะสม
ด้วยเหตุผลหลักดังกล่าว ประกอบกับมิติของผลกระทบด้านต่างๆ ที่จะติดตามมาจากการเปิดประมูลคลื่นฯ 3G ในครั้งนี้ ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคจึงขอเรียกร้องดังนี้
1. กทช. ควรขยายกรอบการรับฟังความคิดเห็นที่รวมถึงผลประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ เช่น หลักประกันเรื่องการเข้าถึงบริการของกลุ่มคนพิเศษ หลักประกันเรื่องราคา เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับการลดต้นทุนในการดำเนินการที่ปรับเปลี่ยนจากระบบการจ่ายสัมปทานมาเป็นการจ่ายค่าประมูลคลื่น
2. องค์กรผู้บริโภคเห็นความจำเป็นในการเปิดบริการโทรคมนาคม 3G แต่เนื่องจากความต้องการระบบ 3G ตามที่มีการคาดการณ์นั้นมีเพียงร้อยละ 10 ของประชากรไทยเท่านั้น เมื่อประกอบเข้ากับจำนวนเอกชนที่มีศักยภาพในการเข้าประมูลที่มีอยู่น้อย ดังนั้นในการเปิดประมูลคลื่นฯ 3G ครั้งนี้จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดให้เข้าถึงทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมด แทนที่จะเปิดใบอนุญาตถึง 4 ใบ ควรมีการเปิดเพียง 1-2 ใบเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรคลื่นโทรคมนาคม 3G อันเป็นทรัพยากรสาธารณะอย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์สูงสุด ตลอดจนหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการฮั้วประมูลด้วย
3. ควรสนับสนุนให้เกิดกลไกการติดตามกำกับเนื้อหา(Content) ความเท่าทันเทคโนโลยี และรวมทั้งปัญหาที่เกิดจากระบบ